วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Review: แม่นาค The musical

แม่นาค เดอะ มิวสิคัล

โรงละคร เอ็ม เทียเตอร์

วันแสดง
4 ธันวาคม 2552 รอบ 19.30
5 ธันวาคม 2552 รอบ 19.30
6 ธันวาคม 2552 รอบ 14.00
11 ธันวาคม 2552 รอบ 19.30
12 ธันวาคม 2552 รอบ 19.30
13 ธันวาคม 2552 รอบ 14.00


ราคาบัตร
800/1200/1500/1800/2000

นำแสดงโดย

ธีรนัยน์ ณ หนองคาย
วรฤทธิ์ เฟื่องอารมย์
มณีนุช เสมรสุต
นรินทร ณ บางช้าง
อรวรรณ เย็นพูนสุข
ญานี ตราโมท
เด๋อ ดอกสะเดา
ธานี พูนสุวรรณ
ศรัณย์ ทองปาน
และณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล (ปุยฝ้าย AF4)
ร่วมด้วยกลุ่มนักแสดงสมทบที่มากความ สามารถทั้งร้องและแสดงโดยมีดนตรีสด 18 ชิ้นร่วมบรรเลงตลอดการแสดงทั้ง 3 ชม.

บทละคร และคำร้อง ดารกา วงศ์ศิริ
กำกับการแสดง สุวรรณดี จักราวรวุธ
กำกับดนตรี ไกวัล กุลวัฒโนทัย
ประพันธ์ทำนอง ไกวัล กุลวัฒโนทัย พลรักษ์ โอชกะ สุธี แสงเสรีชน
อำนวยเพลง ดำริห์ บรรณวิทยกิจ
กำกับการร้อง ใจรัตน์ พิทักษ์เจริญ
กำกับลีลา พจน์ ครองสิริวัฒน์
ออกแบบฉาก ฤทธิรงค์ จิวากานนท์
ออกแบบแสง ฉลาดเลิศ ตุงคะมณี
ออกแบบงานเสียง เศวต เศวตะทัต
ออกแบบเทคนิค วิรัตน์ ภู่นภานนท์ ศุภธนิตย์ ฐิตะชัยสิทธิ์
ออกแบบเสื้อผ้า Dreambox Costume


concept: (promote content)
จากคำร่ำลือที่มาของผีดุแห่งท้องทุ่งพระโขนงสู่ต้นตอของความจริงอีกด้าน
ที่ไม่เคยมีแม่นาคฉบับไหนเคยตีแผ่มาก่อน
นาคบุตรี ขุนศรีประจันและแม่ทองคำ หนีตาม มาก คนรักจากอยุธยาบ้านเกิด
มาเริ่มต้นชีวิตคู่
ครองเรือนกันที่ท้องทุ่งพระโขนง ความรักที่ทั้งคู่มีต่อกันทำให้นาคพยายามปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่

แม่ เหมือน มารดาของมากผิดหวังที่ลูกชายคว้าหญิงอื่นมาเป็นคู่ครองแทน สายหยุด หลานสาว และโกรธเกลียดลูกสะใภ้ถึงขั้นขัดแย้งกับมาก ทำให้สองสามีภรรยาย้ายออกไปอยู่กันตามลำพังที่บ้านริมคลองพระโขนงดงตะเคียน เมื่อนาคท้องแก่ได้ 8 เดือน ทางหลวงออกหมายเกณฑ์ไพร่ไปทำศึกในสงครามเชียงตุง มากจึงฝากฝังเมียไว้กับ ป้าแก่ หมอตำแยและ ตาฉ่ำ สัปเหร่อ สองผัวเมียที่รักใคร่เอ็นดูนาค โชคร้ายในคืนที่นาคเจ็บท้อง ทั้งคู่เมาเหล้าไม่รู้เรื่องราว ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ชาวบ้านมาพบศพนาคอีกครั้งในวันต่อมา วิญญาณของนาคที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างเดียวดายก่อนสิ้นใจ ตัดสินใจเลือกเส้นทางของตัวเองโดยปฏิเสธความตายด้วยปณิธานอันแรงกล้าว่า ข้ายังไม่พร้อมจะยอมตาย

ชีวิต หลังความตายของนาคถูกโจษจันเล่าขานจนเกิดเป็นตำนานผีดุแห่งท้องทุ่งพระโขนง คำร่ำลือจากปากต่อปากของผู้คนตอกย้ำความเชื่อในความเฮี้ยนดุร้ายของแม่นาคจน กลายเป็นสุดยอดตำนานผีไทยอมตะ ทว่ายังมี ความจริงอีกด้าน ที่เกิดขึ้นได้ในสังคมไทยทุกยุคทุกสมัย รอการถ่ายทอดด้วยมุมมองสดใหม่ผ่านบทเพลง 50 เพลงโดยนักร้องนักแสดงชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ในรูปแบบของ sung-through musical(ละครร้องทั้งเรื่องที่ไม่มีบทพูด) ที่จะทำให้ผู้ชมทุกท่านรู้จักกับความจริงของผีแม่นาคอย่างที่ไม่เคยมีใครคิด มาก่อน


Review

สำหรับละครเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องแรกที่ผมได้ชมละครเวทีของคนไทยที่ไม่ใช่ค่ายในกระแส(Mass) ซึงสำหรับผมต้องเรียกได้ว่า

ประทับใจมากๆกับละคนเวทีเรื่องนี้

องค์ประกอบในทุกทุกส่วนของเรื่องนี้ทำได้เหมาะสมและดี จริงๆแล้วธรรมาชาติของละครเวทีค่ายนี้เป็นกลุ่มคนที่ทำละครเวทีสายอักษรศาสตร์ อย่าเต็มตัว (คือกลุ่มสายตรง) ซึ่งบางครั้งละครของคนกลุ่มนี้ทำอาจจะเข้าใได้ยากบ้าง เพราะถือเป็นกลุ่มสายตรง และทำละครอยู่ในลักษณะศิลปะชั้นสูง แต่การเรื่องนี้ผู้กำกับและเขียนบท คาดว่าคงตั้งใจทำมีการทำเนื้อเรื่องให้เป็นที่เข้าใจง่ายสำหรับผู้ชมทั่วไปมากขึ้น การเลือกเพลงที่ฟังง่ายขึ้นและเนื้อเรื่องที่ชัดเจนเข้าใจง่าย แต่แฝงไว้ด้วยความคิดมากมาย

ในทุกๆด้านผมมีข้อติค่อนข้างน้อย
ผมได้ชมทั้งสองCast และชมทั้งครั้งแรกที่มีความยาวกว่าครั้งที่สองที่พยายายรวบรัดให้สั้นซึ่งสำหรับผมการตัดช่วงของสายหยุดกับเรืองออกไปผมชอบมากกว่า เพราะเพื่อให้การแสดงมันกระชับเข้า ไม่น่าเบื่อ แต่ในผมว่าสำหรับแฟนละครdreamboxเอง การตัด ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย เพราะจริงๆแล้วส่วนของเรืองกับสายหยุดก็ไม่ได้ขัดเขินอะไรมากและฐานแฟนละครของDreamboxคงไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับความยาวของละครที่ยาวขึ้นมาอีกนิดหน่อย

บท

บทเป็นหัวใจของการทำงานทั้งหมด ไม่ว่าจะส่งไปที่transition ฉาก ที่ทำได้เนียนทีเดียว และการทำให้แต่ลงองค์ แต่ละฉากมีการอธิบายเรื่องราวตลอด ไม่น่าเบื่อเหมือนมีเนื้อเรื่องให้ดูตลอดทุกฉาก การให้ข้อคิดเรื่องบทก็ถือว่าทำได้ดี และผมชอบมากในconceptที่ว่า "คนร้ายกว่าผี" ซึ่งก็ตอบโจทย์ได้ดีมาก

ดนตรี

โดยรวมทำได้ดีมาก คือมีการสอดประสานเพลงความเป็นไทยเข้าไปในเพลง ไม่ว่าจะเป็นscale ดนตรีไทยๆหรือSound เครื่องดนตรีไทย ทำให้มันดูเป็นไทย แม้อาจจะมีบางsceneที่เพลงฟังดูเป็นdisney และ Western Broadwayอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร รับได้ เนื้อเพลง ถึงแม้ว่าจะมีอะไรที่ขัดหูไปบ้าง แต่การทำละครเพลงที่ไม่มีบทพูดเช่นนี้คงต้องยอมให้เนื้อเพลงขัดหูไปบ้าง เพื่อให้การสื่อสารมันชัดเจนซึ่งผมก็ไม่ได้ติดอะไร อาจจะมีบ้างบางเพลงที่melodyไม่ติดหูนัก แต่ก็ไม่ได้ติดมากเช่นกัน ส่วนการร้องของนักแสดงไม่ต้องพูดถึง เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ทั้งนั้น (ผมชอบCastที่มีพี่โต๊งเหน่งมากกว่า เพราะเสียงแกสุดยอดมาก) เรียกได้ว่าสามตัวแม่ออกมาร้องทำไร ขนุลุกทุกที ส่วนน๊อตอาจจะdropไปบ้าง แต่โดยรวมก็ทำได้ดี

ฉาก แสง สี (Production)

รอบแรกที่ดูยังรู้สึกว่าจังหวะและแสงต่างๆยังทำได้ไม่ดี แต่พอไปดูRestage อีกครั้ง ก็พบว่า การออกแบบทำได้ดีมาก ลงตัวในScaleของงบประมาณที่มี มีความเป็นศิลปะในเชิงภาพสูง การใช้contrastสีเพื่อเพิ่มความลึก การเลือกองค์ประกอบสีของแสงไปบนการทำงานฉากแบบเข้าใจโจทย์ของละครเวที กับพื้นที่ที่มี การtransition ฉากที่ราบรื่น อาจจะมีที่ไม่ชอบอยู่บ้างคือฉากบ้านแม่นอคตอนสดใส มันดูไม่ค่อยสดใส แต่โดยรวมทำได้ดีมาก

โดยรวม

ผมถือว่า Dreamboxทำละครได้เข้าใจกลุ่มผู้ชมตัวเองอย่างมาก และพยายามจะทำให้มันกว้างขึ้นซึ่งก็ทำได้ดีระดับนึง แต่ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คนระดับแมสหันมาชมได้ ซึ่งทางdreamboxก็คงไม่ได้คาดหวังอะไรที่แมสขนาดนั้นอยู่แล้ว โดยส่วนตัวชอบละครเรื่องนี้มาก ดูทั้งสองรอบก็ไม่รู้สึกเบื่อ ถ้าให้คะแนนแล้วก็คงได้ A+ เพียงแต่มีละครเรื่องนี้สำหรับผมเปรียบได้กับเด็กเรียนที่เก่งมากคนนึงที่ทำละครได้ดีตามมาตรฐาน(สำหรับผมเทียบเท่าต่างประเทศทีเดียว) เป็นงานที่สมบูรณ์แบบมาก แต่สิ่งที่ขาดอาจจะเป็นความซน หรือความฉีก จากขนอบ ซึ่งสำหรับผู้ชมของค่ายนี้อาจจะไม่ได้ต้องการสิ่งนั้น ผมก็เลยคิดว่าคงต้องหวังสิ่งนั้นจากค่ายอื่นๆแทนละกัน เพราะการทำอะไรที่ซนหรือฉีก มันคงต้องไปพร้อมกันตั้งแต่ผู้กำกับ บท ดนตรีและฉาก...