วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ทำไมวงการเพลงล่มสลาย

จริงๆเรื่องนี้ก็เกิดสงสัยขึ้นในใจมานาน
แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แค่คิดว่า มันมีคนเอาเพลงเถื่อนมาปล่อย มีแผ่นผี แล้วกฏ็ความง่ายของการขโมยของฟรีในเนต ทำให้
คนมันชอบโหลดเพลงฟรีมาฟังกัน แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนได้ไปเดินซื้อ CD ใน B2S อยู่ๆก็ถึงบางอ้อ ว่าทำไมวงการเพลงมันล่มสลาย
จริงๆมันก็เหมือนการเปลี่ยนของmedia เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับแผ่นเสียง เทป CD จนมาถึงตัวที่ทำให้วงการเพลงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก คือ MP3 ..[MPEG-1 or MPEG-2 Audio Layer 3 (or III)] สิ่งนี้คือความสามารถในการบีบอัดข้อมูลเพลงให้เหลือเพลง นาทีละ1 M แทนที่สมัยก่อนที่wave file มีขนาด 100 Mต่อนาที ..สิ่งนี้มาพร้อมยานพาหนะคู่ใจของมัน ซึ่งนำมาสู่หายนะ(ความเปลี่ยนแปลง)ครั้งใหญ่ในวงการดนตรี ยานพาหนะสำคัญของMP3ก็คือ Ipodนั่นเอง ซึ่งก็จะวิ่งมาบนถนนที่ถูกสร้างมาเป็นอย่างดี นั่นก็คือ internet 57'แม้ใน US จะมีItuneที่จะช่วยให้เพลงไม่ได้เป็นของเถือนที่หาได้ง่าย แต่สิ่งนี้ก็ทำให้วงการเพลงมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อย่างน้อยก็เป็นอาวุธสำคัญที่มาทำลายล้างCDให้หมดไป ซึ่งจริงๆแล้วการที่ผู้ใช้Loadของเถือนนั้นก็ ก็เพราะความสะดวกสบายของคนใช้ คนฟังเพลงนั่นเองที่ไม่ต้องซื้อCDมาconvertให้เป็นmp3แล้วก็เอาCD ไปเก็บในหิ้ง... จะload แบบเสียตังมันก้ช่างยากเสียกระไร ไหนจะต้องกรอกข้อมูล ไหนจะต้องมีบัตรเครดิต กว่าจะกรอกเสร็จ ไปdownloadเพลงฟรี เสร็จไปแล้ว... ความสะดวกสบายแบบนี้เองที่ทำให้การloadของเถือนมันเพิ่มขึ้นทุกวัน
ยังให้ศิลปินต้องหาทางออกใหม่ในการทำงานคือกลับไปนร้องเพลง ..มากกว่าพึ่งยอดขายจากCD DVD หรือ download
ด้วยความสนใจและสงสัยในธุรกิจเพลงว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เมื่อมีโอกาส จึงได้ไปถามนักดนตรีรุ่นคุณน้า คุณพ่อ (พี่แต๋ง ภูษิต ไล้ทอง)ว่าก่อนที่จะมีการเกิดของธุรกิจ แผ่นเสียง เทป CD นักดนตรีเค้าอยู่อย่างไร ..ก็ได้คำบอกเล่ามาเป็นภาพชัดเจนว่า สมัยก่อนถนนบันเทิงของไทยมันก็มีเป็นเส้นๆ เหมือนทองหล่อ เอกมัยเนียะแหละ แต่สมัยก่อนมันจะเป็น ภัตตาคาร ร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านดังๆสมัยก่อนคือ Galaxy ที่คนรวยๆลูกอาเสี่ย จะต้องแต่งสูทไปนั่งกินดริ้ง แล้วเต้นรำบนฟลอร์ ศิลปินทุกคนก็จะเดินสายเล่นดนตรีไปตามร้านต่างๆ ร้านละ 45 นาที ร้านละ 1 ชม โดยมีการจัดวงแบบbigband bandใหญ่บ้างเล็กบ้าง ถ้าห้องอาหารไหนรวย ก็จะเป็นวงใหญ่(ให้นึกถึง bigband แบบ motown) ในร้านอาหาร (ภัตตาคาร) เหล่านี้ก็จะเริ่มจากการกินข้าว กันก่อน แล้วพอดึกๆ ก็จะไปเต้นรำกันในฟลอร์ ซึ่งก็จะเต้นรำกันแบบเป็นเรื่องเป็นราว swing tango walz อะไรก็ว่ากันไป ทุกคนที่ไปร้านอาหารก็จะค่อนข้างwell dress ก้ไปเกี้ยวสาวกัน โดยชวนออกไปเต้นรำในฟลอร์อะไรทำนองนั้น ช่วงนั้นเป็นช่วงของพวกสุเทพ วงศ์กำแหง , สุนทราภรณ์คืนนึงก็เดินสายไปตลอดถนน (ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับศิลปินในปัจจุบัน) ... แต่ยุคการร้องเพลง แบบbigband ก็ล่มสลายลง ตามกฎหมาย ห้ามมีการเล่นดนตรีด้วยเครื่องดนตรีมากจำนวน (จำไม่ได้ว่ารัฐบาลไหนสั่งห้าม) จึงเริ่มเข้าสู่ยุค nightclub เป็นยุคที่electron หรือ acoustic เริ่มเข้ามามีบทบาท (อันนี้ผมเริ่มจะพอคุ้นๆบาง..)
ก็จะเป็นclub แล้วก็มีการร้องเพลงเป็นหลัก (น่าจะเป็นอารมรณ์แบบหนังเรื่องเก๋าๆ) ก็เป้นยุคของนันทิดา แก้วบัวสาย อะไรทำนองนี้ แล้วก็nightclubก็หมดความนิยม และเริ่มเข้าสู่ยุคแห่งธุรกิจเพลงบูมที่สุด คือยุคที่เทปเข้ามาเป็นอาวุธหลักของการชายดนตรี ก็เริ่มตั้งแต่ ยุคแกรนด์เอ๊กซ์ คีรีบูน และอีกมากมาย จนมารุ่งเรื่องที่สุดในยุคของgrammy RS และตอนนี้วงการเพลงกำลังเปลี่ยนรูปไปอีกครั้ง ...ซึ่งผมพยายามทำความเข้าใจและศึกษา อย่างสนใจว่า มันจะเดินต่อไปอย่างไร