วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556
Concertคืออะไร
การทำคอนเสิร์ต คืออะไร
การทำคอนเสิร์ตจริงๆมันไม่ยาก คือเราต้องตอบโจทย์ของความคาดหวังที่เราสร้างขึ้นให้เกิดขึ้นกับคนดู
และต้องตอบให้ถูกต้อง
เพียงแค่นั้นก็ได้คอนเสิร์ตที่ดี ซึ่งก็อาจจะดีกว่านั้นได้อีกถ้าคนดูได้สิ่งที่เกินความคาดหวัง
ทุกวันนี้ผมทำคอนเสิร์ตมามากมาย ก็ยังแปลกใจที่คนทำคอนเสิร์ตจำนวนมากโดยเฉพาะคนใหม่ๆและคนที่มาจาก
สายอื่นๆเช่นสายevent สายproductionที่ยังมีความเข้าใจในคอนเสิร์ตน้อยมาก
จนทำให้ผมงงว่าบางทีเรากำลังทำอะไรอยู่
คอนเสิร์ตไม่ใช่eventที่ต้องเน้นที่ความแปลกไม่เคยเห็นมาก่อนไม่เคยมีใครทำมาก่อนเพื่อให้เป็นที่จดจำ
คอนเสิร์ตไม่ใช่equipment display ที่จะมาแสดงแสนยานุภาพของproduction
คอนเสิร์ตไม่ใช่show ที่คนจะมาเสพเพียงเนื้อหาความสนุกของshow
คอนเสิร์ตไม่ใช่ละครเวทีที่จะโครงหลักคือเรื่องหรือคอนเซปแล้วคนดูก็จะมาเสพ
พื้นฐานของคอนเสิร์ตคือความคลั่งไคล้ของแฟนๆศิลปินที่จะมาชื่นชมศิลปินของเค้าแสดงความสามารถสดๆให้ดู
คล้ายๆอะไรที่เรียกว่า"ศิลปินพบประชาชน"
ทุกวันนี้คอนเสิร์ตได้เปลี่ยนรูปแบบไปมาก. ในหลายครั้งการผสมshowเข้ากับคอนเสิร์ตก็ทำให้เกิดอรรถรสที่ดีน่าสนใจมากกว่าคอนเสิร์ตทั่วไป ในหลายครั้งที่แสนยานุภาพของproduction ได้ช่วยให้คอนเสิร์ตดูสนุกขึ้นมาก
แต่ข้อสังเกตุของผมในช่วงหลังคือคนทำงานหลายคนขาดความเข้าใจเรื่องธรรมชาติของคอนเสิร์ตไปมาก
จนหลายครั้งผมเห็น(รวมถึงได้ทำงาน) กับคอนเสิร์ตที่มีความบิดเบี้ยวทางการนำเสนอสารสู่คนฟัง
ซึ่งการบิดเบี้ยวนี้ส่วนใหญ่เกิดจากคนทำคอนเสิร์ตมีความเข้าใจคนดูที่ผิดไปว่าเค้ามาดูเพราะอะไร
เมื่อเราเข้าใจคนดูผิดไป เราก็จะส่งสารที่ผิดให้กับคนดู
ผมเป็นคนที่โตมาจากสายproduction เคยคิดว่าproductionคือความสำคัญมากสุดๆ
(เราคงเคยได้จังหวะที่ไฟสาดออกจากเวทีจำนวนมากจนสาดเข้าตาเราจนมองไม่เห็นอะไรบนเวที นั่นเพราะคนทำไฟอยากให้เรามองไฟ แต่นั่นคือสิ่งที่เราซื้อบัตรมาดูใช่หรือไม่ หรือเราอาจเคยดูคอนเสิร์ตในทีวีที่ถ่ายแต่ภาพกว้างๆตลอดเวลาเพื่อให้ดูกราฟฟิกและแสงไฟที่แสนอลังการ เพียงเพราะคนทำอยากให้รู้ว่าเราทำกราฟฟิกสวยและลงทุนแสงไปเยอะ แต่นั่นคือเนื้อหาของคอนเสิร์ตที่เราอยากจะดูอย่างงั้นหรือ)
แต่จริงๆแล้วproductionมันเป็นเพียงเครื่องตกแต่งจานอาหาร ไม่ใช่เนื้ออาหารแต่อย่างใด
การทำงานมาหลายปีและทำงานกับผู้จัดหลายคนทำให้ได้เรียนรู้ว่าเราควรตกแต่งจานอย่างเหมาะสม
(หลายครั้งที่ผมเองก็ลืมตัวตกแต่งมากเกินไป)
และการทำงานกับผู้จัดหลายๆคนก็เลยทำได้ชิมเนื้ออาหารหลายหลากรสชาติ มีทั้งอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง
แต่ก็ทำให้เข้าใจในธุรกิจและธรรมชาติของธุรกิจนี้อีกเยอะ
ที่เขียนมาเพราะช่วงนี้ได้พบเห็นและมีส่วนร่วมงานหลายอันที่เน้นการทำproduction
ให้คนดูเห็นproductionที่อลังการ ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะตกแต่งจานอย่างสวยงามอลังการ
เพราะมันคือกำไรของคนดูเพียงแต่ผมแอบแปลกใจที่หลายครั้งเราลืมสนใจเนื้ออาหารไปว่าเค้าทำอะไรให้ทาน
เราตกแต่งมันเข้ากับอาหารนั่นมั้ย ผมเป็นคนที่ไม่เชื่อว่าเราจะทำproductionได้ถ้าเราไม่ได้รู้และเข้าใจรูปแบบคอนเสิร์ต เราจะออกแบบเวทีได้อย่างไรถ้าเราไม่ทราบสารที่คอนเสิร์ตจะสื่อถึงคนดู
หลายครั้งผมเจอศิลปินมีความเป็นตัวเองสูง ไม่ยอมอะไรง่ายๆ จู้จี้และมีทิฐิ
แต่ผมกลับเข้าใจคนเหล่านั้นอย่างมากเพราะเค้าเนื้ออาหาร คนดูมาทานเค้า
ถ้าเค้าไม่มั่นใจว่าอร่อย จะให้เค้าปล่อยได้อย่างไร
หน้าที่ของเราคือทำให้เค้ามั่นใจและแสดงศักยภาพของเค้าได้อย่างเค็มที่
ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะเห็นตลาดของshowในรูปแบบคอนเสิร์ตมันเริ่มผิดเพี้ยนไป
มันอาจจะไม่ใช่เรื่องผิดแต่การทำแบบนี้บ่อยๆผมว่าบางทีมันทำให้คนดูกลับหลงทาง
อาจส่งผลไปกับการเบื่อการดูคอนเสิร์ตไปเพราะเราสื่อสารที่ผิดกับความคาดหวังของคนดู
ทุกวันอยากเห็นคอนเสิร์ตที่เปลี่ยนรูปแบบไปในมุมเชิงพัฒนามากกว่ามุมแห่งความแปลก
ผมว่ามันยังมีอีกหลากหลายด้านของไทยที่ยังต้องพัฒนาไปอีก....
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น